คณะกรรมการ สภาเศรษฐกิจแห่งชาติดโดย มล.เดช สนิวงศ์ มีความเห็นว่าประเทศไทยเสื่อมโทรมไปมากระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง เป็นต้นมา การจะฟื้นฟูบ้านเมืองขึ้นมา จำเป็นต้องอาศัยเงินเป็นจำนวนมากเงินในประเทศไม่พอ ต้องกู้เงินต่างประเทศ แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ต่างประเทศจะให้เงินกู้ ไทยจะต้องมีโครงการที่ที่ดี แต่จะทำได้อย่างไร ในเมื่อไทยไม่มีข้อมูลทางเศรษฐกิจสังคมที่เพียงพอ รัฐบาลรัฐบาลจึงขอทุนจากธนาคารโลกมาสำรวจเศรษฐกิจทั้งหมดของประเทศไทย ธนาคารโลก อนุมัติ ส่งผู้เชี่ยวชาญมา9 คน จาก 6 ประเทศ มี ศ.ดร. Paul T. Ellworthแห่งมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน สหรัฐ เป็นหัวหน้า ฝ่ายไทยได้ตั้ง กรรมการ 15 คนเข้ารวมทำงานกับผู้เชี่ยวชาญ มี มล.เดช(อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยและอดีต ผจก. ธนาคารเพื่อการสหกรณ์) เป็นประธาน ผู้เชี่ยวชาญชุดที่ว่าทำงานสำรวจอยู่1ปี(กค.2500-มิย.2501) ก็สำเร็จ ได้เสนอรายงานชื่อ โครงการพัฒนาของรัฐสำหรับประเทศไทยต่อรัฐบาลไทย และยังได้เสนอให้รัฐบาลตั้งหน่วยงานกลางเพื่อวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
ในวันที่ 20 ตค.2501 จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้ทำรัฐประหารครั้งที่สองและเป็นนายกรัฐมนตรี รัฐบาลของท่านเห็นด้วยกับข้อเสนอของผู้เชี่ยวชาญ จึง ออก พรบ.ตั้งสภาพัฒนาการเศรษฐกิจแห่งชาติให้มีหน้าที่วางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศและจัดลำดับความสำคัญของโครงการที่หน่วยราชการเสนอมา เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่นั้นมาสภาพัฒน์ฯก็คือผู้วางแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ตั้งแต่แผนหนึ่ง (2504-2509)มาจนถึง ปัจจุบันนี้ 54ปีแล้ว
นอกจากนี้รัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ยังได้ ออก พรบ.เพื่อตั้งหน่วยงานช่วยเหลือสภาพัฒน์ฯและพัฒนาบางเรื่องที่ไม่มีหน่วยงานทำ เช่น สภาวิจัยแห่งชาติ 29 ตค.2502 สภาการศึกษาแห่งชาติ 29สค.2502 BOI 13 เมย. 2502 กรมพัฒนาชุมชน 30 กย.2505 สำนักงานสถิติแห่งชาติ 5 พค.2506 กระทรวงพัฒนาการแห่งชาติ 23 พค.2506เป็นต้น
จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีผู้ให็กำเนิดสภาเศรษฐกิจชาติ
ที่มาภาพhttps://encrypted-tbn3.gstatic.com
มล.เดช สนิทวงศ์ ผู้เสนอให้มีการสำรวจเศรษฐิจทั่วประเทศอย่างเป็นระบบและมีการนำผลการสำรวจมาทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติฉบับแรก
ที่มาภาพhttps// encrypted-tbn0-gstatic.com
จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรี ผู้ตั้งสภาพัฒนาการเศรษ
ที่มา https:// encrypted-tbn2.gstatic.com
ที่มา สุวิทย์ ธีรศาศวัตและคณะ ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจและการเงินอีสาน(ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคคะวันออกเฉียงเหนือ 2558)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น