กบฎผู้มีบุญอีสาน 2445 :เป้าหมายและการต่อสู้

เนื่องจากกบฎนี้ใหญ่มากและเกิดขึ้นเกือบทุกจังหวัดโดยไม่มีศูนย์สั่งการกลาง ดังนั้นเป็าหมายของกบฎจึงหลากหลาย หากดูกลุ่มใหญ่ กลุ่มองค์มั่นซึ่งมีอิทธิพลแถบอุบล ยโสธร อำนาจเจริญ นครพนมและลาวใต้ กลุ่มนี้ต้องการขับไล่อำนาจไทยออกไปจากอีสาน และขับไล่ฝรั่งเศสออกไปจากลาวใต้ หากสำเร็จ จะตั้งรัฐใหม่ขึ้นมาโดยมีองค์มั่นปกครองอยู่ที่เวียงจันทน์ สมเด็จลุนวัดบานชัย ปกครองอุบล องค์พระบาทและองค์คุธ ปกครองที่พระธาตุพนม องค์แก้วและองค์กมมะดำซึ่งเป็นข่า ปกครองลาวใต้ กลุ่มที่สองมีอิทธิพลในเมืองขุขันธ์และมโนไพร(หลังกบฎไม่กี่เดือนไทยยกเมืองมโนไพรและจำปาสักให้ฝรั่งเศส)มีหัวหน้าคือบุญจันซึ่งเป็นลูกของเจ้าเมืองคนเก่า ต้องการเป็นเจ้าเมืองขุขันธ์แทนพี่ชายซึ่งเป็นเจ้าเมืองคนปัจจุบัน ที่เหลือเป็นกลุ่มเล็กกลุ่มน้อยไม่พบว่ามีเป้าหมายแน่ชัดทางการเมืองว่าต้องการอะไร แต่ทุกกลุ่มชาวบ้านนับถือและมาขอให้องค์ที่เป็นห้วหน้าเป่ากระหม่อมบ้าง รดน้ำมนต์เพื่อเป็นศิริมงคลบ้าง รักษาโรคบ้าง

การต่อสู้ระหว่างฝ่ายกบฎกับฝ่ายรัฐ จะขอยกเพียงสามกรณีโดยสังเขป

กรณีกบฎผีบุญกลุ่มบุญจัน มีศูนย์กลางที่ภูฝ้าย ทางใต้ของเมืองขุขันธ์(ปัจจุบันอยู่ใน ต.พราน อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ)มีคนเข้ามาร่วมมากที่สุดคือ6000 คน แต่ไม่มีอาวุธมากกว่ามีดพร้า มีปืนไม่กี่กระบอก เมื่อกรมขุนสรรพสิทธิประสงค์ ข้าหลวงใหญ่มณทลอีสานทรงทราบการชุมชุมของกบฎที่ภูฝ้าย ก็โทรเลขรายงานให้ ร.5 ทรงส่งกองทหารจากโคราชมาช่วย แต่ระหว่างที่กำลังหนุนจากโคราชยังมาไม่ถึง กรมขุนสรรพสิทธิ์ก็ส่งกองทหารจากอุบลซึ่งเป็นทหารสมัยใหม่ที่มาพร้อมกับพระองค์ตอนรับตำแหน่ง กับกองกำสังพื้นเมืองชุขันธ์ราว 50 คน เข้าไปยังภูฝ้าย เกิดการปะทะกับกองหน้าของกบฎในวันที่ 11และ 13 มีนาคม 2445(นับตามปฎิทินสากล) ฝ่ายกบฎตาย 10 คน รวมทั้งบุญจัน ทางการได้ตัดหัวบุญจันเสียบประจานเพื่อปรามมิให้คนติดกบฎอีก ฝ่ายกบฎที่เหลือก็แตกหนีเข้าป่าไป กลุ่มท้าวติด ท้าวฮูก็แตกหนีจากเมืองมโนไพรเข้าไปในเขตฝรั่งเศส

กรณีกลุ่มองค์มั่น เรี่มต้นมีกำลังราว 300คน จากสองฟากแม่น้ำโขงจากโขงเจียมถึงเขมราฐ ต่อมาได้กำลังเพิ่มอีก500คนตอนยึดเมืองเขมราฐ ฆ่ากรมการเมืองนี้สองคนที่ไม่ยอมให้ความร่วมมือและจับเจ้าเมืองไปเป็นหุ่นเชิด จากนั้นฝ่ายกบฎก็มุ่งเดินทัพมาที่อุบล จึงมีคนมาเข้าจนมีกำลังรวมกันถึง4000 คน มาปักหลักที่บ้านสะพือใหญ่ อ.ตระการพืชผล ทางกรมขุนสรรพสิทธิประสงค์ทรงโทรเลข ขอกำลังจาก ร. 5 อีกสองกองพัน ระหว่างที่รอกองหนุนจากโคราช กรมขุนส่งกองลาดตระเวณหลายกอง กองละ 7-16คน ไปหาข่าว  ปรากฎว่ามีกองหนึ่งถูกกบฎฆ่าตาย 11คน อีกกองหนึ่งถูกโจมตีแตกกลับมา ทำให้ฝ่ายกบฎหึกเหิมขึ้น กรมขุนสรรพสิทธิประสงค์จึงทรงส่งกองทหารปืนใหญ่ มีปืนใหญ่สมัยใหม่2 กระบอกกับทหารราว100 คนกับกองกำลังพื้นเมืองจากอุบลอีกจำนวนหนึ่ง การปะทะเกิดขึ้นที่บ้านสะพือใหญ่ กำลังของกบฎมีปืนไม่กี่กระบอก ที่เหลือเป็นหอกดาบ แหลน หลาว ถูกปืนใหญ่ถล่มตรงกลางกลุ่ม พอแตกหนีก็ถูกทหารที่ซุ่มอยู่อยู่สองฝากทางใช้ปืนไรเฟิลยิง รวมกบฎถูกฆ่าตาย 200-300คน บาดเจ็บราว500คน ฝายกบฎถูกจับราว400คน แกนนำถูกศาลตัดสิน ประหารชีวิต ที่เหลือจำคุกตลอดชีวิต ลงมาจนไม่ถึงปี แล้วแต่อยู่ในระดับใหน หัวหน้าคือองค์มั่นหนีไปฝั่งซ้าย ไปรวมตัวกับกองกำลังข่าขององค์แก้ว องค์กมมะดำ ยึดเมืองสุวรรณเขต สู้กับฝรั่งเศสอย่างดุเดือดที่สุดและองค์แก้วถูกฆ่าตาย ส่วนองค์กมมะดัมได้มาตั้งกองกำลังข่าเป็นจำนวนมากสู้กับฝรั่งต่อมาอีกหลายปีจึงถูกฆ่าตาย

กลุ่มกบฎผู้มีบุญทิดเข้ม กลุ่มนี้มีอิทธิพลในอีสานเหนือ มีศูนย์กลางที่วัดบ้านมาย อ,บ้านม่วง จ.สกลนคร มีทิดเข้มเป็นหัวหน้า ท่ายเคยบวชจนเป็นที่นับถือของชาวบ้านมาก ต่อมาสึก นุ่งขาวห่มขาวบอกศิษย์ว่าท่านเป็นท้าววิษณุกรรมเทวบุตร มีชาวบ้านจากอุดร หนองคาย สกลนครเดินทางมาให้ท่านเป่ากระหม่อม รดน้ำมนต์ เพื่อรักษาโรคและเป็นศิริมงคล เฉลี่ย กลางวันราว100คน กลางคืน 700คน ต่อมีทิดรัน ตั้งตัวเป็นผู้วิเศษ อ้างว่ามีไม้เท้าวิเศษต้นชี้ตาย ปลายชี้เป็น เกิดความขัดแย้งและท้าทายอำนาจระหว่างทิดเข้มกับทิดร้น ทิดรันบอกว่าไม้เท้าวิเศษของเขาฝังไว้ในที่นา ทิดเข้มไม่เชื่อถ้ามีจริงเขายอมถวายหัว แต่ถ้าไม่มีจริงทิดรันจะยอมถวายหัวมั้ย ทิดรันให้สัญญาจะหาไม้เท้าวิเศษมาให้ในสามวัน พอครบกำหนดทิดรันหาไม้เท้าวิเศษไม่ได้จีงถูกทิดเข้มตัดคอ ตามสัญญา ทิดเข้มบอกว่าถ้าไม่ประหารทิดรันจะกลายเป็นยักษ์  การตายของทิดรันรู้ไปถึงทางการๆจึงส่งตำรวจมาจับทิดเข้มและสานุศิษย์ ในวันที่ 8 พค.2445 .ในขณะที่ทิดเข้มกำลังบริกรรม ชาวบ้านพากันมามุงดูเจ้าหน้าที่ ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นเจ้าหน้าที่จึงใช้ปืนยิงชาวบ้าน ทิดเข้มและพวกตายถึง 48 คน แล้วโยนศพทั้งหมดลงในบ่อน้ำแล้วถมดิน ชาวบ้านยังชี้ให้ผู้เขียนได้ว่าบ่อน้ำนี้อยู่ตรงใหน

แม้ฝ่ายกบฎจะมีกำลังมากกว่ากำลังทหารของฝ่ายรัฐบาล 20-40 เท่า แต่ต้องพ่ายแพ้ เพราะอาวุธปืนไรเฟิลและปืนใหญ่สมัยใหม่ที่ฝ่ายกบฎไม่มี
ทหารที่ถูกส่งมาปราบกบฎผู้มีบุญ 2445


กบฎผู้มีบุญกลุ่มบุญจัน เมืองขุขันธ์
ที่มาของภาพทั้งสอง https://encrypted-tbn0.gstatic.com


ที่มา:สุวิทย์ ธีรศาศวัต ประวัติศาสตร์อีสาน 2322-2488เล่ม  2 หน้า 181-182 193-200(คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ม.ข. 2557)


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น