รถยนต์คันแรกที่สร้างขึ้นในสหรัฐคือปี 1893 (สมัย ร.5) โดยพี่น้องตระกูล Duryea แต่ขายไม่ออก ต่อมา Henry Ford (1863-1947) ได้ตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ในปี 1896 ที่ดีทรอยต์ แต่มีปัญหาค่าแรงช่างและเวลาที่ใช้ในการฝึกหัดช่างเขาจึงคิดระบบการผลิตแบบใหม่ขึ้นในปี 1903 ทำให้รถยนต์ราคาถูกมากโดยวิธีผลิตแบบmass production ใช้สายพานในการลำเลียงชิ้นส่วนผ่านช่างที่ยืนรอ ช่างแต่ละจุดจะประกอบชิ้นส่วน 1-2 ชิ้น ระบบนี้ทำให้การผลิตเร็วมากและรถทุกคันได้มาตรฐานเดียวกันหมด เมื่อรถเสียก็มีชิ้นส่วนขนาดมาตรฐานขาย ทำให้การซ่อมรวดเร็วมาก ระบบที่ฟอร์ดใช้ภายหลังมีคนนำไปใช้ในโรงงานนานาชนิด เขาจึงเป็นคนปฎิวัติระบบอุตสาหกรรมซึงใช้มาจนถึงปัจจุบัน ในปี 1903 เขาผผลิตตรถได้ 600 คัน
รถยนต์ฟอร์ด model T ที่ฟอร์ดผลิตด้วยระบบสายพานราคาเพียงคันละ 260$ ออกสู่ตลาดในปื 1908 (ต้นสมัยร.6) ขายดีมากขายได้ถึง 15 ล้านคัน ฟอร์ดกลายเป็นมหาเศรษฐึ ต่อมามีนักประดิษฐ์อเมริกันอีกหลายคนได้ผลิตรถนต์ออกขาย แต่ฉีกแนวใหม่คือทำรถหรูราคาแพงเพื่อขายคนรวยอาทิ
@ แรนซัม โอลส์ (1864-1950) ผลิตรถ Oldsmobile
@ วิลลิส เดฟ บิวอิค ผลิตรถ Buick
@ พี่น้องตระกูลดอดจ์ ผลิตรถ Dodge
@ วอลเตอร์ ไครส์เลอร์ ผลิตรถ Chryler
ปี 1904 สหรัฐผลิตรถยนต์ได้รวม 2,753,111คัน
ปี 1964 สหรัฐผลิตรถยนต์ได้รวม 9,307,860 คัน
ปี 1984 สหรัฐผลิตรถยนต์ได้รวม 7,774,000 คัน
ปี 1989 สหรัฐผลิตรถยนต์ได้รวม 6,897,600 คัน
ที่มา: สุวิทย์ ธีรศาศวัต:คำบรรยายวิชาประวัติศาสตร์ยุโรป 2 (ประวัติศาสตร์ยุโรปสมัยใหม่ ค.ศ.1789 ถึง ปัจจุบัน) ขอนแก่น:คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 2554
*เผยแพร่ในเว็บบล็อกครั้งแรก 3 กค.2558
*เผยแพร่ในเว็บบล็อกครั้งแรก 3 กค.2558
suwit-history.blogspot.com
ภาพที่ 1 Henry Ford ผู้สร้างรถฟอร์ดและนำระบบสายพาน (MASS PRODUCTION) มาใช้เป็นคนแรก เป็นผู้ปฏิวิติการผลิตแบบอุตสาหกรรมซึ่งยังใช้มาถึงปัจจุบัน
ภาพที่ 2 ระบบสายพานการผลิตในโรงงานรถยนต์ฟอร์ด เมืองดีทรอยต์
ภาพที่ 3 รถฟอร์ด model T ทำสถิติขายดีที่สุด ถึง 15 ล้านคัน
ภาพที่ 4 Ransom Olds ผู้ผลิตรถหรู โอลสโมบิล
ภาพที่ 5 รถยนต์หรูผลิตในสหรัฐเมื่ราวหกทศวรรษที่แล้ว หลังสงครามโลกครั้ง 2 (ภาพที่ 5-10)
ภาพที่ 6
ภาพที่ 7
ภาพที่ 8
ภาพที่ 9
ภาพที่ 10
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น